เบรคนั้นสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในการดูแลรักษารถยนต์เลยนะครับ เพราะรถยนต์ต้องขับเคลื่อนด้วยความเร็วจึงจะถึงที่หมายและเราต้องหยุดที่จุดหมายให้ได้อย่างปลอดภัยด้วยนะครับ เราถึงมีคำว่าเดินทางอย่างสวัสดิภาพซึ่งก็คือเดินทางปลอดภัยนั่นเอง
เวลาขับรถเคยมีใครสังเกตเสียงต่างๆ เวลาขับรถกันไหมครับ ได้ยินเสียงเอี๊ยดๆ เวลาที่เหยียบเบรคหรือชะลอความเร็ว วันรุ่งขึ้นรีบโทรนัดศูนย์บริการเพื่อเอารถเข้าตรวจสอบทันที เพราะการใช้เบรคนั้นสำคัญเท่าชีวิตกับเลย ว่าแต่เสียงหรืออาการต่างๆ ที่เราได้ยินนั้น มันบ่งบอกถึงอะไรบ้างล่ะ มาดูรายละเอียดกันครับ
การทำงานที่ผิดปกติของเบรค
มาเริ่มจากอาการผิดปกติต่างๆ ของเบรคกันก่อนเลยครับ
1.เบรคแล้วมีเสียง
ไม่ว่าจะเริ่มจากเสียงเอี๊ยดๆ อี๊ดๆ หรือจะเป็นเสียงเหมือนโลหะครูดกันก็ตาม นั่งคือสัญญาณเตือนของผ้าเบรคกับจานเบรคที่น่าจะเกิดการเสียดสีกันจนทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมาแต่เราก็ไม่ควรซ่อมเองนะครับ เอารถไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบโดยตรงดีกว่า เพียงแต่เราต้องเล่าอาการให้ช่างทราบหรือได้ยินเสียงด้วยตอนขับยิ่งดี เพื่อการหาสาเหตุให้ตรงจุดที่สุดครับ
2.เบรคแล้วรถลอยหรือสั่น
แบบที่สองเมื่อเราเหยียบเบรคแล้วรู้สึกว่ารถลอยๆ หรือเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือเหยียบแล้วรู้สึกได้ถึงความสั่นทั้งจากแป้นเบรคหรือจะสั่นขึ้นมาจนถึงพวงมาลัยก็ตามแต่ นั่นแสดงว่าเรากำลังเจออาการเบรคเฟดหรือเริ่มเบรคไม่อยู่ที่ความเร็วสูง งานนี้ควรให้ช่างตรวจสอบน้ำมันเบรคและจานเบรคด่วนๆ เลยครับ และอาการที่ว่านี้อาจเกิดขึ้นหลังจากที่เราขับรถไปลุยน้ำมาก็ได้นะครับ
3.เบรคไม่ค่อยอยู่
ไม่ว่าจะเป็นเบรคตื้อ คือเบรกแข็งต้องใช้แรงมากกว่าปกติ หรือเบรคต่ำ คือเหยียบเบรคแล้วจมมากกว่าปกติก็ตามอาการเหล่านี้กำลังบอกเราว่ารถของคุณกำลังมีปัญหาที่ลูกยางแม่ปั้นเบรค หม้อลม หรือปั้มไดชาร์จ วาล์ว และสายลม โอ…ศัพท์เทคนิคล้วนๆ เอาเป็นว่ารีบนำรถยนต์เข้าตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญในทันทีนะครับ
4.เบรคแล้วมีกลิ่นไหม้
เรื่องนี้เราได้เคยแนะนำเรื่องการขับรถขึ้นลงเขาว่าอาการนี้มักจะเกิดกับรถเกียร์ออร์โต้ หรือคนขับรถที่ขับขึ้นลงเขาแล้วแช่เบรคจนเกิดปัญหาเบรคติดจนเกิดเบรคไหม้ตามมาในที่สุด อาการสังเกตง่ายมากครับ กลิ่นไหม้ มาก่อนเลย บางคันอาการหนักหน่อยก็จะมีควันลอยขึ้นมาด้วยจากกระโปรงหน้ารถให้ตื่นเต้นด้วย เพราะงั้นตอนขับรถพยายามหลีกเลี่ยงการเหยียบเบรคแช่นะครับ อาการนี้ผู้เชี่ยวชาญจะตรวจสอบลูกยางกันฝุ่นของแม่ปั้มเบรคให้ครับ
5.สัญญาณไฟเบรคเตือน
สัญญาณเตือนขึ้นแล้วแสดงว่าเราน่าจะเข้าขั้นโคม่ากันแล้ว อย่ารอให้ถึงขั้นเบรคแตกก่อนแล้วค่อยเอารถไปตรวจสอบเลยนะครับ ส่วนอาการเบรคแตกนั้นก็จะคล้ายๆ ในละครที่เราเคยดูกันมาเลย คือเมื่อเราเหยียบเบรคจนแป้นเบรคชนพื้นรถแล้วความเร็วไม่ลดลงเลยซึ่งเราไม่อยากให้ใครได้เจออาการนี้เลยครับ ส่วนการตรวจสอบสัญญาณไปเบรคเตือนนั้น คือตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อเช็คระบบเบรคอย่างละเอียดเป็นการดีที่สุดครับ
ไม่ว่าคุณจะขับรถเร็ว หรือค่อยๆ เดินทางก็ตาม การหยุดอย่างปลอดภัยที่จุดหมายปลายทางก็คือ การเดินทางไปถึงจุดหมายเหมือนกันครับ
Credit : https://www.frank.co.th