“ระบบเบรค” คือหนึ่งในส่วนสำคัญที่สุดของรถยนต์ และส่วนที่ทำหน้าที่สร้างแรงเสียดทานเพื่อให้ทุกการเบรคของคุณ “สั่งได้ดั่งใจ” นั่นก็คือ “ผ้าเบรค” ไม่ว่าจะเป็นระบบแบบ ดิสก์เบรค หรือ ดรัมเบรค ตัวผ้าเบรคนั้นก็เป็นส่วนประกอบที่มีผลอย่างมาก การรู้เทคนิควิธี “เลือกผ้าเบรค” ให้เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่ การใช้งาน เลือกให้ตรงกับรุ่นรถที่คุณใช้นั้นเป็นพื้นฐานที่คนรักรถจำเป็นต้องรู้ และข้อมูลต่าง ๆ สำหรับใช้พิจารณาประกอบการเลือกซื้ออยู่ตรงหน้าคุณแล้ว
รู้จัก 3 ประเภทหลัก “เลือกผ้าเบรค” ได้ตรงตามสไตล์การขับขี่
ในตลาดรถยนต์ปัจจุบันนี้ ผ้าเบรคที่มีให้เลือกใช้งานจะแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ Organic, Semi-Metallic และ Ceramic ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีส่วนประกอบแตกต่างกันไป มีจุดเด่น จุดด้อย ตามแต่การเลือกใช้งาน ส่วนจะมีอะไรที่ไม่เหมือนกันบ้าง แล้วเหมาะกับสไตล์การขับขี่แบบไหน ติดตามไปพร้อมกันกับเราได้ที่นี่
ประเภทที่ 1 ผ้าเบรคออร์แกนิค (Organic)
ผ้าแบบออร์แกนิค หรือที่รู้จักกันแพร่หลายในชื่อของ “ผ้าเบรคอินทรีย์” ปัจจุบันมี 2 แบบด้วยกัน คือ Asbestos ตัวนี้จะมีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ มีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี ราคาย่อมเยาว์ แต่ข้อเสียนั้นคือการทิ้งคราบฝุ่นที่ค่อนข้างเยอะ อาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจของผู้ขับขี่ได้
อีกแบบคือ Non-Asbestos แบบนี้จะตัดส่วนผสมของแร่ใยหินออกไป ช่วยลดปัญหาเรื่องของฝุ่นผงจากผ้าเบรคเล็กน้อย และเสียงเบาลง และการที่ไม่มีแร่ใยหินจึงทำให้การทนความร้อนลดน้อยลง หากคุณเป็นคนที่ใช้รถขับขี่แต่ในเมือง ไม่ค่อยออกต่างจังหวัดสักเท่าไหร่ ผ้าเบรคออร์แกนิคนั้นถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
ประเภทที่ 2 ผ้าเบรคโลหะ หรือ กึ่งโลหะ (Metallic / Semi-Metallic)
ส่วนผสมของผ้าเบรคชนิดนี้นั้นจะเป็นแบบผงเหล็ก หรือเป็นแบบใยเหล็ก ราคาของประเภทนี้จะสูงขึ้นมากว่าแบบออร์แกนิคเล็กน้อย แต่ก็จะได้คุณสมบัติที่ทนความร้อนได้มากขึ้น เรียกว่าทำได้ดีมาก ๆ ยืนหนึ่งของเรื่องนี้เลย แถมยังระบายความร้อนได้รวดเร็วอีกต่างหาก ส่วนเรื่องฝุ่นก็น้อยกว่าแบบออร์แกนิค ยิ่งหากพูดเรื่องประสิทธิภาพในการหยุดรถแบบ “กระทันหัน” ผ้าเบรคประเภทนี้ทำได้ดีที่สุด ซึ่งข้อดีเหล่านี้ก็ต้องแลกกับการสึกหรอของจานเบรค และมีเสียงดังรบกวนเสมอยามใช้เบรคนั่นเอง
ส่วนความเหมาะสมของการใช้งานผ้าเบรคประเภทนี้ จะเป็นการใช้งานแบบหนัก ๆ เช่น ขับขึ้นเขาลงเขา ขับด้วยความเร็ว ขับทางไกล หรือบรรทุกของหนัก เนื่องด้วยผ้าเบรคชนิดนี้จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพจะต้องมีอุณภูมิสูงขึ้นมาเล็กน้อย หรือภาษาช่างจะเรียกว่า “การวอร์มเบรค” ผ้าเบรคแบบนี้จึงไม่เหมาะแก่การใช้ในเมืองที่มีจราจรหนาแน่น ส่วนอีกข้อเสียที่หนักเลย คือฝุ่นผงที่ติดตามล้อนั้นสามารถละลายติดล้อจนทำให้เช็ดไม่ออกได้เลย
ประเภทที่ 3 ผ้าเบรคเซรามิก (Ceramic)
เรียกว่าเป็น “ท็อปคลาส” ของวงการเลย สำหรับผ้าเบรคเซรามิก เป็นการยกระดับจากสองประเภทด้านบนในเกือบจะทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของอายุการใช้งาน ใช้ได้ทุกช่วงอุณหภูมิ (ไม่ต้องวอร์มเบรค) ฝุ่นน้อย แถมยังไร้เสียงยามเบรค และที่สำคัญสุด ๆ คือไม่กัดกินจานเบรครถคุณ ทั้งหมดที่ร่ายมานี้ก็อาจจะต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่าเพื่อน ซึ่งเรื่องของคุณภาพก็ตามราคาของจริงดังว่าเลยล่ะ
ด้วยข้อดีที่มากมายขนาดนี้ เรียกว่าสามารถใช้งานได้ในทุกสภาพ ความเหมาะสมก็อยู่ผู้ใช้พึงพอใจ แม้อาจมีแย้งในเรื่องการใช้งานหนักแล้วจะต้องเปลี่ยนบ่อย แต่ถ้าสะดวกแบบนั้น ผ้าเบรคเซรามิกก็จัดให้ได้เหมือนกัน!
เลือกผ้าเบรค “เซรามิก” คุณภาพ มาตรฐานระดับสากล
ตอนนี้ก็ได้รู้กันแล้วว่าผ้าเบรคในตลาดนั้นมีแบบไหนให้เลือกใช้งานกันบ้าง พร้อมกับได้รู้จักกับผ้าเบรคท็อปคลาสอย่าง “ผ้าเบรคเซรามิก” ส่วนใครที่สนใจอยากลองใช้ผ้าเบรคชนิดนี้ เรามีบริการให้ครอบคลุมทุกรุ่นเท่าที่รถประเทศไทยใช้งานกัน สามารถเลือกชมสอบถามเพิ่มเติม เพื่อสัมผัสประสบการณ์ “ผ้าเบรคคุณภาพสูง” ของเราที่นี่ได้ด้วยตัวคุณเอง